แม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูป

เรื่องราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จบลงอย่างมีความสุข

เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1956 และจบลงในวันอังคาร เวลา 10.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในตอนนั้น Kenneth Rooth ที่ผ่านการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างโชกโชน ได้เห็นวิวัฒนาการของเครื่องมือจากสมัยที่ใช้แบบจำลองที่ทำจากไม้และแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์มาจนถึงการใช้ CAD ช่วยในการผลิตในช่วงศตวรรษที่ 21

แต่แล้ววันหนึ่ง Kenneth ก็เริ่มมองเห็นว่างานวิศวกรรมอาจไม่สามารถไปได้ไกลมากกว่านี้แล้ว เขาจึงจับมือกับแซนด์วิคโคโรมอนท์เพื่อลดระยะเวลาที่ใช้ในการขึ้นรูปโลหะลง 30%

เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หรือ? ก็อาจจะใช่ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้หรือ? ได้แน่นอน

โดยปกติแล้ว บริษัทผู้ผลิตยานยนต์มักจะผลิตแม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูปมากกว่าหนึ่งในสามด้วยตัวเอง การสร้างเครื่องมือเหล่านี้ใช้ระยะเวลานาน และกว่า 750 ชิ้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตยานยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาคอขวดในกระบวนการผลิต ด้วยระยะเวลาการผลิตที่สั้นลง รุ่นรถที่มีมากขึ้น และต้นทุนที่จำกัด ทำให้กระบวนการนี้ทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
Kenneth Rooth ทราบดีว่างานตัดเฉือนและงานกดส่วนใหญ่ต้องใช้คนงานหลายคน และจะต้องทำการเก็บผิวละเอียดด้วยแรงคน ซึ่งต้องใช้ทักษะสูงและเวลามาก ผลที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและมาตรฐานที่ต่ำลง คุณภาพและความสมบูรณ์ของประตูด้านขวาอาจแตกต่างจากประตูด้านซ้ายถ้าใช้ผู้ควบคุมเครื่องจักรสองคน
เขาจึงมอบหมายให้แซนดวิค โคโรมอนท์ค้นหาวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายรวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตลง และที่สำคัญจะต้องมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น วิธีการทำงานรูปแบบใหม่ด้วยเครื่องมือและกระบวนการตัดเฉือนแบบใหม่จึงเกิดขึ้น ผลลัพธ์: เวลาที่ใช้ในการตัดเฉือนลดลงกว่า 30% ไม่ต้องทำการขัดเงาเครื่องมือด้วยแรงคนอีกต่อไป และลดการตัดเฉือนแบบแมนนวลรูปแบบเดิมได้อย่างชัดเจน

วิธีการคือ

นำดอกสว่านแบบถอดเปลี่ยนเม็ดมีดได้มาใช้แทนดอกสว่านเหล็กกล้าความเร็วสูง วิธีง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าที่คิด จากนั้นนำ Silent Tools มาใช้แทนเครื่องมือเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดเฉือนชิ้นส่วนที่มีระยะยื่นยาว และพัฒนาแม่แบบขึ้นมาสำหรับการใช้งานในอนาคต

Kenneth Rooth

การตัดเฉือนแม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูปแบบใหม่

บางวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตัดเฉือนแม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูปได้มากที่สุดอาจเป็นวิธีการคายเศษวัสดุแบบใหม่ มาดูตัวอย่างการดำเนินการที่ช่วยให้ Kenneth Rooth เป็นฮีโร่ด้านการลดค่าใช้จ่ายกัน

นำหัวกัดเม็ดมีดทรงกลมมาใช้แทนหัวกัดปลายมน: ลดระยะเวลาที่ใช้ในการกัดหยาบ 3D

วิธีการกัดหยาบทั่วไปที่ใช้กับผิวงาน 3D คือการใช้หัวกัดปลายมนในการกัดลอกแบบที่ระยะกันลึกที่แตกต่างกัน แต่ด้วยระยะยื่นยาวที่ปลายสปินเดิล เครื่องมือตัดและสปินเดิลของเครื่องจึงเกิดแรงเค้นมากเกินไป

การเปลี่ยนมาใช้ทางเดินเครื่องมือแบบคอนทัวร์คู่กับหัวกัดเม็ดมีดทรงกลม ให้อัตราการขจัดเนื้อโลหะที่มากขึ้น เพราะมีฟันตัดประสิทธิภาพสูงจำนวนมาก ระยะกันลึกแนวแกนที่คงที่จะทำให้โหลดบนสปินเดิลสมดุลและคงที่มากขึ้น ช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ

เจาะรูแผ่นยึดตายได้อย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ การเจาะรูแผ่นยึดตายแบบเหล็กหล่อจะใช้ดอกสว่านเป็นเครื่องมือหลัก เนื่องจากแผ่นยึดตายมีรูร้อยโบลท์และรูตาไก่จำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการเจาะยาวนาน

แต่เมื่อนำ CoroDrill 880 ซึ่งเป็นดอกสว่านแบบถอดเปลี่ยนเม็ดมีดได้มาใช้แทน กลับพบว่าประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แม้แต่การตัดเฉือนแบบแห้ง

การเจาะรูอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเจาะแบบแทงขึ้นรูปในเหล็กกัดขอบ

ก่อนหน้านี้ การเจาะรูรูปวงกลมจะใช้ดอกสว่านเหล็กกล้าความเร็วสูงเป็นเครื่องมือหลัก จากนั้นจึงใช้หัวกัดในการขยายรูให้กว้างขึ้น

แต่ CoroDrill 880 ช่วยขจัดความยุ่งยากดังกล่าวโดยใช้การเจาะแบบแทงขึ้นรูปเป็นช่วงๆ ในการขยายรู

วิธีนี้สามารถขจัดวัสดุได้ 85% และใช้เวลาน้อยกว่ามาก โดยส่วนที่เหลือใช้หัวกัดทรงกลมดำเนินการ

ลูกกระทุ้ง

วิธีการมาตรฐานคือการใช้ดอกสว่านเหล็กกล้าความเร็วสูงในการเจาะรู จากนั้นใช้หัวกัดคาร์ไบด์เพื่อเปิดรู

แต่เราเลือกใช้ดอกสว่านแบบถอดเปลี่ยนเม็ดมีดได้ (CoroDrill 880) เจาะตรงลงไป แล้วใช้หัวกัดแนวดิ่งแบบถอดเปลี่ยนเม็ดมีดได้ (CoroMill 210) เพื่อขยายรู

จากนั้นจึงนำวิธีการกัดแบบ Trochoidal ประสิทธิภาพสูงมาใช้เพื่อขจัดวัสดุให้มากที่สุดอย่างรวดเร็วที่ระยะกันลึกขนาดใหญ่และในส่วนที่แคบมากของรู

บาร์บไกด์บุช

วิธีการที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นในการกัดบาร์บไกด์บุช คือการใช้หัวกัดเม็ดมีดทรงกลม CoroMill 300, หัวกัดคมตัดยาว CoroMill 390 และ CoroBore 825 ในการเก็บผิวละเอียด

เริ่มต้นโดยใช้ CoroMill 300 ในการกัดปาดหน้า จากนั้นจึงเปิดรูโดยใช้การกัดแบบเฮลิคอลสามแกน

ด้วยระยะกันลึกขนาดใหญ่และลักษณะการตัดที่นุ่มนวล CoroMill 390LE จึงกัดบาร์บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วน CoroBore 825 ซึ่งเป็นหัวคว้านความเที่ยงตรงสูงก็จะให้พิกัดความเผื่อผิวงานที่ดีเยี่ยม กระบวนการนี้จะช่วยลดทั้งระยะเวลาและจำนวนเครื่องมือในสต็อก

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องมือเจาะและหัวกัดคาร์ไบด์จะถูกนำมาใช้ในงานลักษณะนี้ แต่ที่ระดับการผลิตที่ต่ำกว่ามาก

การตัดเฉือนผิวโบลท์เฉือน

เมื่อไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่จะทำการตัดเฉือนได้และต้องใช้ระยะยื่นยาว การใช้ CoroMill 210 แทนหัวกัดคมตัดยาวในการกัดแนวดิ่งอาจเป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณ วิธีการมาตรฐานจะใช้หัวกัดเหล็กกล้าคมตัดยาวความเร็วสูง

การกัดแนวดิ่งจะส่งแรงในแนวแกนที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาจากแรงสั่นสะเทือนขณะทำการตัดเฉือนที่มีระยะยื่นยาว

ส่วนระบบจับยึด Coromant Capto ที่มีเสถียรภาพและมีความยืดหยุ่นดีเยี่ยม จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชุดเครื่องมือได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

CoroMill 300 ในการกัดหยาบผิวงาน 3D

CoroDrill 880 ในการเจาะรแม่พิมพ์ปุ่มขึ้นรูป

การเจาะแบบแทงขึ้นรูปด้วย CoroDrill 880

การกัดแบบ Trochoidal ด้วย CoroMill Plura

CoroMill 390LE ในการตัดเฉือนไกด์บูช

CoroMill 210 ในการกัดแนวดิ่ง